เราไม่ควรเชื่อ เพราะถูกบอกมาให้เชื่อครับ
แต่เราควรเชื่อ เพราะเราถูกโน้มน้าวให้เชื่อ เพราะเป็นแรงบันดาลใจ หรือเพราะประโยชน์ที่เราได้รับ
การถูกโน้มน้าวด้วยประโยชน์ที่ได้รับส่วนบุคคลแล้ว ย่อมไม่เท่ากัน เราได้ประโยชน์จากใครคนหนึ่ง เราก็ย่อมเชื่อในตัวเขา มีศรัทธาในตัวเขา แตกต่างไปจากอีกคนหนึ่งซึ่งไม่เคยได้รับประโยชน์จากเขาเลย ก็อาจไม่มีศรัทธาที่เท่ากัน
ไม่มีอะไรถูกหรือผิด ในศรัทธาที่แตกต่างกันนั้น และเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับปัจเจกบุคคล ในฐานะผลลัพธ์ของการกระทำในแบบนั้น ซึ่งก็ไม่มีสิ่งใดถูกหรือผิดในการกระทำนั้นอยู่ดี
ภาวะผู้นำ เกิดขึ้นจากการโน้มน้าวนั้น ถ้าผู้คนไม่ถูกโน้มน้าว ภาวะผู้นำก็จะไม่เกิดขึ้น และการสร้างให้เกิดการโน้มน้าวให้เกิดขึ้นนั้น เป็นความรับผิดชอบโดยตรงของผู้นำ ที่ต้องการคงอยู่ในภาวะผู้นำนั้น ที่ผู้นำต้องสร้างให้เกิดให้เกิดการโน้มน้าวในผู้คน ไม่ใช่เพียงหนึ่งหรือสองครั้ง แต่ต้องสร้างให้เกิดการโน้มน้าวตลอดเวลาทุกๆวินาทีในภาวะผู้นำนั้น
ไม่มีอะไรผิดถ้าผู้นำไม่สามารถสร้างการโน้มน้าวได้ และในเวลาเดียวกัน ก็ไม่มีอะไรผิดหากผู้คนไม่ถูกโน้มน้าวภายใต้การนำนั้นๆ มันก็แค่ภาวะผู้นำไม่เกิดขึ้น และมันก็จะไม่เป็นเป็นปัญหาใดๆ ถ้าผู้นำนั้น สามารถ ’นำ’ ได้โดยปราศจากภาวะผู้นำ ซึ่งถ้าเป็นการ ‘นำ’ ในองค์กรขนาดเล็กนั้น ความสำคัญของภาวะผู้นำอาจจะไม่ได้ปรากฏชัดเจนนัก แต่เมื่อจำเป็นที่จะต้อง ‘นำ’ องคาพยพที่ใหญ่ขึ้น ภาวะผู้นำก็จะมีความสำคัญมากขึ้นตามลำดับ และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะ ‘นำ’ องคาพยพระดับประเทศ โดยขาดซึ่งสภาวะผู้นำ
ผู้นำที่ไม่ได้คงอยู่ในสภาวะผู้นำนั้น หากไม่เข้าใจว่าสภาวะผู้นำเกิดจากการโน้มน้าวแล้ว วิธีแรกที่เขาจะทำเพื่อพยายามสร้างภาวะผู้นำคือการบังคับ ใช้กำลัง กดขี่ ข่มเหง กล่าวโทษ ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่เขาจะคิดได้ในอำนาจที่เขามี วิธีเหล่านั้น นอกจากจะไม่มีวันที่จะพาเขาไปสู่ภาวะผู้นำได้แล้ว ย่อมนำไปสู่การล่มสลายของภาวะผู้นำอย่างรวดเร็วด้วยซ้ำ ผู้นำที่มีอำนาจปกครองโดยอัตโนมัติที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนรากฐานของการโน้มน้าว จะไม่เข้าใจเหตุการได้มาของภาวะผู้นำที่มาจากการโน้มน้าวเลย และนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบของการนำที่ปราศจากภาวะผู้นำนั้น และไม่มีผู้นำใดสามารถคงอยู่ในการนำนั้นได้ โดยปราศจากภาวะผู้นำ
อำนาจที่แท้จริงของผู้นำ คงอยู่ได้ในภาวะผู้นำ ซึ่งก่อตัวขึ้นมาจากความสามารถในการโน้มน้าวผู้คน และเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขา พวกเขาจะพร้อมที่จะเชื่อฟัง และเคลื่อนตัวไปรอบผู้นำ ในวิธีที่เป็นลมใต้ปีกแห่งอำนาจของผู้นำนั้น และวันใดที่ผู้นำไม่ได้คงอยู่ในภาวะผู้นำที่มาจากการโน้มน้าวนั้น ลมใต้ปีกนั้นก็จะละลายหายไปในอากาศ และพาให้ปีกนั้นร่วงตกลงมาจากฟ้า และหายไปในห้วงมหรรนพแห่งความทุกข์ที่ปราศจากศรัทธาอันเวิ้งว้างสุดลูกหูลูกตา