ในขณะที่หลายคนกำลังวิพากษ์วิจารณ์นโยบายกระจายเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิตัลวอลเลตอย่างเมามัน ผมอยากชวนมาวิเคราะห์อีกนโยบายที่สำคัญกว่า คือการเติมเงินรายได้ให้ทุกครอบครัวให้ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ของพรรคเพื่อไทยครับ
เป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีนโยบายเศรษฐกิจในระดับมหภาคที่หยั่งรากลึกมาก
นโยบายที่กำหนดรายได้ต่อครอบครัวให้ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท เป็นการกำหนดเส้น Poverty Line หรือ ‘ระดับความจน’ ขึ้นมาใหม่ ว่าคนไทยต้องไม่จนไปกว่านี้ เป็นแนวคิดที่สามารถกำหนดนโยบายที่สอดคล้องกับแนวคิดของ Universal Basic Income (UBI) ที่ทำให้รัฐมีข้อผูกพันที่จะต้องทำให้ประชาชนมีรายได้ไม่ต่ำกว่าตัวเลขตัวเลขหนึ่ง และเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ความจนหมดไปจากประเทศนี้ กระบวนวิธีหลายอย่างที่สำคัญที่อาจถูกสร้างขึ้นจากแนวคิดนี้ อันหนึ่งที่ผมสนใจคือการทำ Negative Income Tax (NIT)
แนวคิดนี้ ผมได้รับฟังมาจากอาจารย์ ศุภวุฒิ สายเชื้อ ในครั้งเมื่อกลุ่ม CARE คิดเคลื่อนไทยเรามาถกกันเพื่อหาทางออกให้กับประเทศไทยช่วงที่เริ่มเข้าสู่ยุคโควิดใหม่ๆ การทำ NIT คือการกำหนด Poverty Line ให้กับคนไทยให้เหมาะสม คนที่มีรายได้อยู่เหนือ Poverty Line ก็ต้องจ่ายภาษีให้รัฐตามปรกติ แต่คนที่มีรายได้อยู่ต่ำกว่า Poverty Line รัฐต้องจ่ายเงินให้จนมีรายได้ไม่ต่ำกว่า Poverty Line ในแนวคิดนี้ เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้คนจนและความจน หมดไปจากประเทศไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม ดีกว่าบัตรคนจนที่ใช้กันอยู่ และสามารถทำได้โดยการประเมินรายได้ทั้งครอบครัว ซึ่งทำให้การประเมินเป็นธรรมกว่าการประเมินเป็นรายบุคคล ซึ่งอาจจะมีการแจ้งข้อมูลที่เป็นเท็จแบบบัตรคนจนได้
นโยบายการประกันรายได้ 20,000 บาทต่อครอบครัว จึงน่าสนใจในรากฐานของนโยบายที่ ‘อาจจะ’ มาจากแนวคิดของ UBI และ NIT และเป็นความหวังที่จะมีการจัดการในระดับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ที่ทำให้คนไทยหายจนกันเสียที