How To Jump Start The Creative Economy

การเริ่มต้นติดเครื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ต้องเริ่มต้นจากหน่วยของธุรกิจที่เล็กที่สุด นั่นคือ Micro Enterprise และสนับสนุนให้เกิดการเจริญเติบโตในทางโครงสร้าง (structural growth) โดยการกระจายตัวแบบหว่าน (dissemination) ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้แบบเงียบ (Silent Knowledge) ทางด้านวัฒนธรรม เท่านั้น การกำเนิดของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จึงจะเป็นไปได้

โครงสร้างที่สำคัญที่สุด คือหน่วยธุรกิจแบบ Micro Enterprise ถ้าเรามองครอบครัว ให้เป็นหน่วยธุรกิจที่เล็กที่สุด โครงสร้างของ Micro Enterprise ก็จะซ้อนทับอยู่กับโครงสร้างทางสังคมอย่างแยกออกจากกันไม่ได้ ในสังคมเมือง เราอาจจะเห็น Micro Enterprise นี้เต็มไปหมดในรูปของ แผงลอย หาบเร่ ร้านค้าเล็ก อาชีพรับจ้างแบบ freelance ในต่างจังหวัด เราอาจจะเห็นธุรกิจของครอบครัว ชุมชน เกษตรกรที่ทำเกษตรชุมชน เป็นหน่วยธุรกิจที่เล็กกว่าธุรกิจขนาดเล็กและกลาง (SME) มีขนาด 5-10 คน และไม่มีขีดความสามารถที่จะเข้าถึงแหล่งทุนใดๆ แต่มีศักยภาพสูงสุดในการรับความเสี่ยงจากการทดลองในทางสร้างสรรค์ได้ เนื่องจากมีขนาดเล็ก หากล้มหรือผิดพลาด ก็จะสามารถเริ่มต้นได้ใหม่โดยรวดเร็ว ซึ่งนี้คือลักษณะของ ‘พื้นที่ (space)’ ที่สำคัญที่สุด ของเศรษฐกิจสร้างสรรค์

เราจะเรียกโครงสร้างของหน่วยธุรกิจแบบ Micro Enterprise นี้ว่า ‘ธุรกิจจิ๋ว’

สิ่งเดียวที่จะทำให้เกิดการสร้างสรรค์ได้ คือการสร้าง’พื้นที่’ ในเกิดการสร้างสรรค์ มันเรียบง่ายแค่นั้นเอง จินตนาการว่าเรายื่นกระดาษเปล่ากับดินสอที่เขียนดีให้กับเด็ก เขาก็จะเริ่ม ‘วาด’ บางสิ่งบางอย่างลงไปบนพื้นที่ว่างบนกระดาษนั้นเอง เมื่อเขาวาดผิด เขาก็จะลบ และวาดใหม่ การสร้าง ‘พิ้นที่’ จึงเป็นกลไกลสำคัญเดียวที่จะก่อกำเนิดให้เกิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่เมืองและรัฐต้องเป็นผู้สนับสนุน โดยที่เมืองและรัฐ ต้องไม่เป็นผู้ที่พยายามจะเขียนรูปเหล่านั้นแข่งด้วยเสียเอง

ธุรกิจจิ๋ว เป็นพื้นที่ในการสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์แล้วก็จะพบว่ามีความสอดคล้องกัน ธุรกิจที่เล็กระดับ micro นี้ ก่อกำเนิดง่าย แตกดับได้ง่าย มีลักษณะการประสบความสำเร็จแบบ Temporary Monopoly ซึ่งเหมาะกับธุรกิจสร้างสรรค์ซึ่งต้องมีความเสี่ยง ลองผิดลองถูก ล้มได้ ลุกง่าย สิ่งเดียวที่ธุรกิจจิ๋วไม่มีคือการเข้าถึงแหล่งทุน และถ้าเราสามารถทำให้ธุรกิจจิ๋วเข้าถึงแหล่งทุนได้ ธุรกิจจิ๋วเหล่านั้นก็จะกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ที่พร้อมจะโต และการจะปลูกให้เติบโตได้ จะต้องเริ่ม ‘หว่าน (disseminate)’ ให้ธุรกิจนั้นกระจายตัวให้มากที่สุด ลงไปในชุมชน ในเมือง จนกว่าจะไปได้ทั่วประเทศ

การ ‘หว่าน’ นี้ จะเกิดขึ้นได้ก็จากการกระจายตัวของทุนแบบ ‘หว่าน’ ด้วย เช่นการจัดการทุนที่กระจายตัวลงพื้นที่ในลักษณะเดียวกับการจัดการกองทุนหมู่บ้าน เป็นโอกาสดีที่ธุรกิจจิ๋วนี้จะเติบโตได้เร็วที่สุด

เมื่อเมล็ดพันธุ์การสร้างสรรค์เริ่มหยั่งรากลงไปในดิน เริ่มมีการสร้างสรรค์ของธุรกิจจิ๋วบางอย่างที่พิสูจน์แล้วว่าใช้การได้ การถ่ายทอดธุรกิจนั้นให้เติบโต แตกกิ่งก้านสาขา ได้เร็วที่สุด นั้นคือศักยภาพของชุมชน ในการถ่ายทอดองค์ความรู้แบบเงียบ หรือ Silent Knowledge ให้ได้ การถ่ายทอดองค์ความรู้เงียบนี้ ไม่ได้เกิดจากการถ่ายทอดด้วยตัวหนังสือหรือรูปภาพ แต่เป็นการถ่ายทอดโดยการเรียนรู้เมื่ออยู่ด้วยกันเป็นชุมชน เช่นเดียวกับการถ่ายทอดทางวัฒนธรรมต่างๆ ศักยภาพของชุมชนจึงมีส่วนสำคัญอย่างมากในการถ่ายทอดองค์ความรู้แบบเงียบนี้ และทำให้ธุรกิจสร้างสรรค์ของธุรกิจจิ๋ว สามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ก่อกำเนิดธุรกิจใหม่ๆได้อย่างมหาศาล และสามารถขับเคลื่อนเป็นเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) ให้กับประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Submit a comment

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s