บางทีก็กังวลเหลือเกิน ว่าเราอยู่ในวิชาชีพสถาปัตยกรรม ที่อยู่ในบริบททางสังคมเดียวกับผู้คนหรือเปล่า
ความเหลื่อมล้ำ ความยากจน ปัญหาเศรษฐกิจ คอรัปชั่น การจ่ายเงินทอนเพื่อให้ได้งานออกแบบจากภาครัฐ การเลือกสเปคโดยรับอามิส การริดรอนสิทธิ์ของประชาชน และความไม่ยั่งยืนของระบบนิเวศน์จากนโยบายรัฐ รวมทั้งการไม่แยแสต่ออิสระทางความคิดของคนยุคใหม่ ล้วนเป็นบริบททางสังคมที่ทำลายกระบวนการสร้างสรรค์ทางสถาปัตยกรรม ที่สังคมสถาปนิกในปัจจุบันปฏิเสธที่จะพูดถึงมัน ไม่ว่าจะเป็นสมาคมสถาปนิกสยามฯ หรือสภาสถาปนิก เราเมินหน้าออกจากปัญหา และหลับตาลง ราวกับมันไม่เคยมีอยู่ตรงนั้น
สถาปัตยกรรมของเรา กำลังเคลื่อนออกจากผู้คน และไปอยู่ใน Instagram
หรือแม้แต่ผลกระทบของสงครามในยุโรป ผู้คนนับหมื่นเสียชีวิต คนอีก 10 ล้านคนต้องพลัดพรากจากถิ่นที่อยู่อาศัย แม้เป็นสิ่งอาจส่งผลกระทบกับวิชาชีพเรา หรือเราอาจจะหยิบยื่นความคิดที่ช่วยเหลือพวกเขาได้ เราก็ไม่ได้ทำอะไรเลยที่พูดถึงมันด้วยซ้ำ
ไม่อยากคิดเลยว่า วิชาชีพของเรา แยกตัวออกจากบริบททางสังคมไปมากขนาดไหน เราจะมีชีวิตอยู่อย่างเบิกบาน ท่ามกลางการจ่ายเงินให้ได้งานจากระบบราชการ เรายังเห็นความงดงามของคลองโอ่งอ่างในขณะที่ไม่ไกลจากนั้นชุมชนเมืองเก่าหลายแห่งถูกทำลายไปโดยมือของเจ้าของที่ดินและนายทุน เราเชื่อในความจริงเฉพาะที่ถูกนำเสนอใน Facebook เท่านั้นหรือ
อยู่บนหอคอยงาช้าง หรืออยู่ในกะลา อะไรซักอย่าง
ผมคิดว่า เราไม่สามารถสร้างสรรค์อะไรได้อย่างแท้จริงเลย ถ้าเรายังปฏิเสธบริบทในความจริงที่เป็นจริง สภาวิชาชีพที่นิ่งเฉยกับการคอรัปชั่นที่มีอยู่ในการจ้างงานออกแบบของราชการ สมาคมวิชาชีพที่นิ่งเฉยกับความเหลื่อมล้ำของโอกาสทางวิชาชีพในเมืองและภูมิภาค เรา ในฐานะสถาปนิก เรากำลังสร้างสรรค์อะไรบ้างให้กับวิชาชีพนี้
หรือเราก็แค่เอาตัวรอดไปอีกวันวันหนึ่งเท่านั้น