People As A Leader Of The Country

สำหรับประเทศไทยต่อจากนี้

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ถ้ากลับมาเปิดเมือง เริ่มธุรกิจกันใหม่ แล้วเศรษฐกิจมันยังไม่กลับมาดีขึ้น พวกเราจะทำอย่างไรกัน

อันนี้ถามพวกเรากันเองนะครับ ไม่ได้พูดถึงรัฐบาล ขานั้นเขาไม่ฟังเราอยู่แล้วครับ เขาสนใจฟังแต่เศรษฐีพูด

เราเป็นคนจน คนค่อนข้างจน คนฐานะปานกลาง นักธุรกิจตัวเล็กๆ เกษตรกร พ่อค้าแม่ค้าในตลาด เราคือคนที่สร้างเศรษฐกิจของประเทศ เราคือคนที่ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศนี้ ส่วนพวกมหาเศรษฐีนั่นเขาหากินบนหัวพวกเราอีกที เรื่องแบบนี้คนที่เป็นทหารไม่ค่อยเข้าใจ

หลังจากผ่อนคลายเปิดธุรกิจบางส่วนได้มาจะครบ 1 สัปดาห์ ธุรกิจร้านค้าโดยทั่วไปไม่ได้กลับไปดีเหมือนช่วงก่อนปิด ถามว่าดีกว่าตอนโดนปิดมั้ยมันก็ใช่ แต่รายได้ที่ได้ตอนนี้ยังไม่ได้ถึงครึ่งของช่วงก่อนปิด ความกังวลก็เริ่มเข้ามาครอบงำโดยทั่วไปแล้วว่า แล้วลูกค้ามันหายไปไหนกันหมด

มาตรการการปิดเมือง ที่คุณหมอสุรพงษ์ เรียกว่าเป็นยาแรงนั้น ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นยาสลบเสียมากกว่า ธุรกิจทั้งหมดโดนน๊อคเข้าสู่วิสัญญีโดยไม่มีใครได้เตรียมตัวล่วงหน้า คนสั่งการก็ไม่มีการเตรียมการศึกษาในการจ่ายเงินประกันสังคมออกมาเยียวยาให้ได้ทันท่วงที รวมถึงไม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าใดๆ มีแต่มาตรการแก้ไขปัญหาบริษัทขนาดใหญ่ เพราะระดับรากหญ้าไม่เคยมีโอกาสพูดเสียงดังไปถึงหูรัฐบาลอยู่แล้ว

รัฐบาลและ พรรคร่วมรัฐบาล ก็ทะนงในอำนาจที่มีในทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนฯ และเชื่อว่าตัวเองจะทำอะไรก็ได้ ไม่ต้องสนใจประชาชนก็ได้เพราะภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ยังไงก็ต้องได้นายกรัฐมนตรีที่มาจากการสืบทอดอำนาจจาก คสช. ตลอดไปอย่างแน่นอน ไม่มีการเปลี่ยนขั้ว คนยากจน จึงไม่อยู่ในสายตาของรัฐบาลเลยแม้แต่น้อย แต่ในทางตรงกันข้าม คนรวย ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของรัฐบาลในการหาเงินให้ใช้นอกงบประมาณกันตลอดเวลานั้น เป็นประชาชนเดียวในสายตาของรัฐบาล และคนยากจน คนชั้นกลางที่เหลือนั้น ไม่ใช่ประชาชนสำหรับรัฐบาล และอาจจะเป็นภาระที่รัฐบาลอยากปิดประตูใส่หน้าเสียด้วยซ้ำ

ด้วยอวิชชาที่น่าสมเพช รัฐบาลนี้กำลังพาเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ความหายนะที่หยั่งรากลึก หนทางเดียวที่จะแก้ไขได้คือผู้นำประเทศต้องมีสองสิ่งที่สำคัญคือ

หนึ่ง ความนอบน้อมถ่อมตนที่ยินดีจะรับฟังว่าปัญหาของประชาชนคืออะไร เดินออกมาคุยกับแม่ค้าในตลาดแบบไม่ต้องทำข่าวประชาสัมพันธ์ตัวเอง ไม่ต้องมีคนรายล้อม ผู้นำที่ดีต้องอาศัยอยู่ท่ามกลางประชาชนของเขา เป็นส่วนหนึ่งของประชาชนและเป็นแรงบันดาลใจของผู้คน ก็ต้องเรียนตรงๆว่าสิ่งนี้คนเป็นทหารทำไม่ได้ เพราะการฝึกตัวเองให้เป็นทหารมาตลอดชีวิตนั้น อาศัยอยู่ในชีวิตที่ตรงข้ามกับสิ่งนี้โดยสิ้นเชิง ทหารคือการปกครองที่มีลำดับขั้นชัดเจน มีการใช้อำนาจออกคำสั่งมากกว่าการโน้มน้าว ซึ่งการออกคำสั่งนั้นไม่ใช่การบริหาร แต่ผมเชื่อว่าทหารส่วนใหญ่จะคิดแบบนั้นว่ามันใช่

สอง คือความสามารถในการมองหาโอกาส ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ท่ามกลางบริบทของประชาชนที่เราได้ไปฟัง ไปสัมผัสมา ซึ่งการที่จะมองเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆที่จะลงมือทำบางอย่าง ที่เป็นโอกาสสำหรับเศรษฐกิจของประเทศได้นั้น แปลว่าผู้นำต้อง ‘ฟัง’ เยอะกว่าพูด ต้องปล่อยวาง ‘ตัวตน’ ความยึดมั่นถือมั่นว่าตัวเองเป็นผู้ถูก เป็นผู้มีความสามารถลงสักครู่หนึ่งในระหว่างที่ฟังประชาชน คนยากจน คนที่เขามีปัญหา เขากำลังเล่าถึงปัญหาที่เขามีให้ฟังอย่างตั้งใจ มองให้เห็นว่าเราในฐานะผู้นำ คือที่พึ่งพาของเขา และไม่มองว่าปัญหาของพวกเขาเป็นภาระของเรา หรือมองว่าเขากำลังจะกล่าวโทษเรา การที่เราไม่สามารถเป็นผู้นำที่ ‘ฟัง’ เป็นให้ได้นั้น เราก็จะไม่มีทางเลยที่จะมองเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ เราจะไม่เห็นโอกาสเลยว่าจะสร้างสรรค์สิ่งใด หรือ ‘ทำอย่างไร’ ให้เศรษฐกิจนั้นดีขึ้นได้

การออกมาถามผู้คนเพื่อให้เขาบอกว่าจะให้ผู้นำ ‘ทำอย่างไร’ นั้น นั่นไม่ใช่การฟัง แต่เป็นการโยนความรับผิดชอบออกจากผู้นำไปที่ผู้อื่น คนรวยบ้าง คนจนบ้าง แต่นั่นไม่ใช่ภาวะผู้นำ การเลือกที่จะฟัง ต้องเป็นการตัดสินใจของผู้นำเอง และเรารับผิดชอบการเลือกนั้น นั่นคืออาวุธที่ทรงพลังที่สุดสำหรับผู้นำที่ประเทศต้องการ ในภาวะวิกฤติเช่นนี้

สิ่งที่พวกเรา ในฐานะประชาชน คนจน คนค่อนข้างจน คนฐานะปานกลาง นักธุรกิจตัวเล็กๆ เกษตรกร พ่อค้าแม่ค้าในตลาด และทุกๆคนที่ร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ต้องเริ่มถามตัวเองอย่างจริงจังแล้ว ก็คือว่า แล้วเราจะทำอย่างไรถ้าเริ่มเปิดเมืองแล้ว เศรษฐกิจยังเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้า เราต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนระดับประเทศได้ เราต้องเริ่มทำอะไรบางอย่างที่รัฐบาลควรทำ แต่ทำไม่ได้ และจะไม่ทำ อนาคตของเศรษฐกิจประเทศไทยในระดับรากหญ้า ในแบบที่ไม่มีรัฐบาลขับเคลื่อนนั้น พวกเราจะเริ่มลงมือทำสิ่งใดบ้างสำหรับประเทศนี้

เพราะนั่นคือประชาชนในฐานะผู้นำ และนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ผู้นำของเราอีกต่อไป

Submit a comment

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s