The Gift

เมื่อวานนี้ ผมได้รับของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิตผมครับ

ตอนที่น้องๆในโครงการ ChAMP 7 ของบัญชีจุฬาฯ นัดผมกับธงชัย mentor คู่กันในปีที่แล้วมาพบนั้น ใจนึงผมก็คิดว่าจะหาทางเบี้ยวยังไงดี เพราะวันที่นัดกันมาเจอเป็นวันเกิดผมพอดี ก็เป็นความเกเรส่วนตัวที่อยากทำอะไรที่อยากทำในวันเกิด เกเรได้ตามใจ แต่มีอะไรบางอย่างในคำพูดของน้องๆทีบอกว่าเขากำลัง’ติด’ กับอะไรบางอย่างในชีวิตนั่นเอง ที่เหมือนมีแรงดึงดูดให้เราต้องไปหา และก็ตัดสินใจว่าไป แล้วก็เดินทางไปนั่งกินข้าวกับน้องๆตามที่นัดกัน

โครงการ ChAMP เป็นโครงการที่มีพลังดึงดูดที่ประหลาด รุ่นพี่จากหลากหลายคณะในจุฬาฯที่มาช่วยกันก็หลงไหลในเสน่ห์ของโครงการนี้ ที่เป็นโอกาสให้รุ่นพี่ได้มานั่งคุยกับรุ่นน้อง แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอย่างไม่ได้มีโครงสร้างที่เคร่งครัดนัก แต่ก็เป็นประโยชน์สำหรับทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องที่ได้แลกเปลี่ยนกัน ผมเองก็ถูกชักชวนโดยธงชัยให้มาร่วมโครงการนี้แบบงงๆ แต่ก็ตกลงรับทำโครงการมาสองปีแล้ว และก็ยังสนุกที่จะร่วมโครงการไปเรื่อยๆ และก็คิดว่าจะทำไปเรื่อยๆจนกว่าเขาจะไม่ยอมให้ทำนั่นแหละ

น้องๆในกลุ่มที่เราเรียกว่า mentee กลุ่มนี้นั้น จริงๆแล้วก็ไม่ได้เป็นกลุ่มที่เราสองคนดูแลโดยตรงในปีที่แล้วด้วยซ้ำ แต่เป็นกลุ่มที่เราได้เจอเนื่องจากมีการแลกกลุ่มกัน (switching pair) และเราได้เจอน้องกลุ่มนี้เพียงครั้งสองครั้งเท่านั้น แต่ความสัมพันธ์ที่มีก็ดีมากพอที่น้องๆในกลุ่มจะนัดเรามาคุยได้อีกครั้งหนึ่งเมื่อชีวิตมีปัญหา แม้ว่าโครงการในปีที่แล้วจะจบไปแล้วก็ตาม

ธงชัยมาเล่าให้ฟังทีหลังว่า จริงๆแล้วนัดวันนี้ตอนแลกก็คิดว่าจะเลื่อน เพราะเปิดมาเช้าตลาดหุ้นก็ร่วงลงไปแตะ 900 เสียอารมณ์ใช้ได้ แต่ผมคิดว่าก็คงมีอะไรในใจของธงชัยที่ทำให้เขาตัดสินใจไม่เลื่อนนัด และก็มาเจอน้องๆด้วยกัน

น้องๆก็ผลัดกันเล่าเรื่องราวของชีวิตของพวกเขาให้ฟัง คนหนึ่งก็’ติด’ที่ไม่กล้าตัดสินใจว่าจะทำงานนี้ดีหรือไม่ เพราะกลัวว่าจะล้มเหลว เราก็ถามว่าล้มเหลวแล้วมันจะเป็นอย่างไร มีใครตายมั้ย ถ้าไม่มีก็ไม่น่าเป็นไร สุดท้ายก็เห็นร่วมกันว่าความกลัวที่จะล้มเหลวนั้น ตั้งอยู่บนความกลัวสิ่งเดียว คือกลัวที่จะดูไม่ดี (not looking good) และมันก็ดูไม่เท่ห์เท่าไหร่ ที่เราไม่กล้าที่จะลงมือทำบางอย่างที่มีค่าในชีวิตเรา และอาจพาเราไปสู่ความสำเร็จ เพราะแค่ความกลัวที่จะ’ดูไม่ดี’แค่นั้น

น้องอีกคนก็รู้สึกว่างานที่ทำอยู่มันไม่ใช่ และไม่มีแรงบันดาลใจในงานที่ทำ แต่กลับอยากไปทำสิ่งอื่นอีกหลายอย่างที่ไม่ใช่งานที่ทำ ธงชัยแนะนำให้น้องมีอิสระที่จะเลือกในสิ่งที่ตัวเองอยากทำจริงๆ พร้อมทั้งยกตัวอย่างวันแรกในการทำงานของเขาที่รู้สึกว่ามันไม่ใช่ เขาก็พร้อมที่จะเดินออกงานนั้นมาทันที และก็เลือกหาสิ่งใหม่ที่ให้แรงบันดาลใจกับเขา ผมมองเห็นบางอย่างที่มากไปกว่านั้นในตัวน้องคนนี้ ผมบอกน้องเขาไปว่าที่น้องไม่รู้สึกว่ามีแรงบันดาลใจในงานที่ทำก็เป็นเพราะว่า น้องเธอเลือกงานที่’ง่าย’เกินไปสำหรับความสามารถที่น้องเธอมี และการที่เขาเลือกทำงานแบบนั้นก็เป็นเพราะบทสนทนาที่เขามีกับตัวเองว่าเธอ’ไม่ดีพอ’ที่จะทำได้มากกว่านี้ และถ้าเธอกล้าที่จะเอาบทสนทนาที่ว่าตัวเอง’ไม่ดีพอ’นั้นออกไปจากชีวิตได้ เธอจะกล้าทำในสิ่งที่ท้าทายตัวเองมากขึ้น และตื่นเต้นไปกับชีวิต และงานที่ทำมากขึ้นตามไปด้วย

สำหรับน้องคนสุดท้ายที่เราคุยด้วย เราถามน้องว่าน้องกำลังเผชิญกับอะไรที่อยากได้คำแนะนำหรือเปล่า น้องบอกเราว่าเขาเป็นคนเดียวที่รู้สึกว่าชีวิตไปได้ดี และยังไม่ต้องการคำแนะนำอะไรเลย ชีวิตเขากำลังไปได้ดีมาก ได้ที่ทำงานที่ดีพร้อมกับธุรกิจส่วนตัวไปด้วย เขาเล่ารายละเอียดเรื่องธุรกิจของเขาให้พวกเราฟังพร้อมกับท่าทีที่มั่นใจ ทะมัดทะแมง เต็มไปด้วยรายละเอียดข้อมูลที่มาจากการศึกษาที่ละเอียดมาก ผมกับธงชัยฟังแล้วก็คิดว่าเข้าท่าทีเดียว และน้องก็น่าจะไปได้ดีอย่างที่เขามั่นใจจริงๆ แต่ในวินาทีนั้นเอง ผมก็เห็นอะไรบางอย่างในตัวเขาที่ทำให้ผมตกใจ

ผมมองเห็นตัวเองตอนอายุ 24 ในแววตาของน้องในตอนนี้

ผมลองถามน้องเขาไปว่า ความสัมพันธ์ของน้องกับคุณพ่อเป็นยังไงบ้าง ซึ่งก็ทำให้น้องเขาสะดุดเล็กน้อย เขาบอกว่าเขารักคุณพ่อมาก และพอผมถามว่าครั้งสุดท้ายที่เขาได้กอดคุณพ่อนั้นมันเป็นเมื่อไหร่ น้องเขาก็ยอมรับว่าไม่ได้กอดพ่อมานานแล้วเหมือนกัน

น้องเล่าให้ฟังว่า พ่อเคยบอกว่าให้น้องตั้งใจทำงานเพื่อวันนึงจะได้ซื้อรถสปอร์ตให้พ่อได้ และน้องเขาก็จำคำนั้นมาตลอดชีวิต เขาตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงานหนัก ก็เพราะว่าซักวันหนึ่งเขาตั้งใจจะตอบแทนความรักของพ่อด้วยรถสปอร์ตคันนั้นให้ได้ ผมบอกน้องว่ามันดีมากเลยที่เขามีแรงขับดันแบบนั้น เพราะมันทำให้เขาขยัน ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงาน และมีความมุ่งมั่น แต่มันก็เหนื่อยและเครียดใช่มั้ย น้องก็ยอมรับว่าใช่ เขามีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับบ่อยมาก และตัวเองก็ไม่ได้เจอกันกับแฟนมาหลายอาทิตย์แล้ว ความสัมพันธ์ของเขากับแฟนก็น่าจะแห้งแล้งน่ากลัวอยู่

สิ่งที่ผมเห็นก็คือตัวผมในอดีต ที่พ่อผมก็เคยบอกผมเหมือนกันว่า ลูกของพ่อต้องเก่ง ถ้าไม่เก่งคือไม่ใช่ลูกพ่อ ตลอดชีวิตของผมจึงต้องเรียนหนัก ทำงานหนัก ขยันอย่างบ้าคลั่งมาตลอดชีวิตเพียงเพื่อจะเป็นคนเก่งของพ่อ พิสูจน์ความรักของผมให้พ่อเห็นด้วยการเป็นคนฉลาด เป็นคนเก่ง ซึ่งมันก็มีส่วนดีที่ทำให้ผมเป็นคนอย่างที่ผมเป็นในปัจจุบัน แต่มันก็ทำให้ผมเหนื่อย เครียด และแน่นอนความสัมพันธ์ทุกๆอย่างทั้งกับแฟน ครอบครัว เพื่อนร่วมงานล้วนพังพินาศไปตามลำดับ ผมเล่าให้น้องฟังว่า มันโชคดีมากที่ก่อนที่คุณพ่อผมจะเสียชีวิตเพียง 1 วัน ท่านได้มีโอกาสที่บอกผมว่า ผมเป็นลูกที่ดีสำหรับท่าน และท่านภูมิใจในตัวผม ในวินาทีนั้นเองที่การเดินทางที่ยาวนานในการพิสูจน์ความรักของผมที่มีต่อพ่อนั้นจบลงสมบูรณ์แบบ วินาทีนั้นเองเป็นครั้งแรกที่ผมสัมผัสได้ถึงความเบาสบายและเป็นอิสระอย่างแท้จริง และเริ่มต้นมีความสุขกับชีวิต และสัมผัสความรักที่มีอยู่รอบตัวเราได้อย่างแท้จริง ราวกับว่ากำแพงขนาดใหญ่ที่กักขังผมไว้เป็นเวลา 40 กว่าปีนั้น ทลายลงโดยพลัน และอีกสิบกว่าปีต่อมาหลังจากที่คุณพ่อผมเสียชีวิตไปนั้น ชีวิตผมก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ผมบอกน้องเขาว่า คุณพ่อน้องเขาไม่ได้อยากได้รถสปอร์ตจริงๆหรอก และมันก็ไม่จำเป็นที่น้องเขาต้องพิสูจน์ความรักที่มีต่อพ่อด้วยรถสปอร์ตเช่นกัน ผมขอให้น้องเขาลองกลับไปกอดพ่อคืนนี้ แล้วเขาจะค้นพบว่าเขาไม่จำเป็นจะต้องทำงานหนักเพื่อพิสูจน์ความรักที่เขามีกับพ่ออีกต่อไป เขาก็จะทำงานเพราะเขาทำงาน และความรักระหว่างพ่อกับลูกก็สามารถเริ่มต้นและสมบูรณ์แบบได้ง่ายดายในการกอดนั้น ธงชัยเห็นด้วยกับผมว่า ในฐานะพ่อ เขาก็คงอยากให้ลูกกอดมากกว่าซื้อรถสปอร์ตให้อย่างแน่นอน

สิ่งที่มหัศจรรย์ของน้องคนนั่นก็คือ ในตอนที่เราแยกจากกันในคืนนั้น เขาก็รับปากว่าจะกลับไปกอดพ่อ แต่เราก็ยังคิดว่าเขาก็คงจะรับปากไปแค่นั้น และก็คงจะทำเร็วที่สุด’ซักวันหนึ่ง’ ไม่นึกว่าดึกๆคืนนั้นน้องก็ text มาบอกว่า เขาวางแผนจะกอดพ่อในคืนนี้ตอนตีสามตอนที่พ่อจะขับรถไปส่งที่สนามบิน ผมก็ตื่นเต้นไปกับเขาด้วยและบอกว่าจะรอฟังผลในตอนเช้าว่าเป็นยังไงบ้าง เขาเล่าให้ฟังว่าเป็นการกอดพ่อจริงๆครั้งแรกในชีวิตที่งงๆกันทั้งพ่อและลูก แต่ก็สัมผัสได้ถึงความสุขของทั้งสองคนผ่านตัวอักษรสั้นๆที่น้องส่งมาเล่าให้ฟัง และน้องได้สัมผัสถึงประสบการณ์เหมือนได้วางบางอย่างที่แบกไว้หนักมายาวนานลง และโล่งเป็นอิสระมาก เราขอบคุณน้องที่ตัดสินใจทำมันอย่างรวดเร็วและทำให้เราได้สัมผัสความรักที่พ่อลูกคู่นี้มีต่อกัน ธงชัยบอกว่า นี่เป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดสำหรับผม และผมก็เห็นด้วยกับเขาอย่างหมดหัวใจ และตื่นเต้นที่จะได้เห็นชีวิตของน้องเขาต่อไปจากจุดนี้ ที่เขาจะขยันและเก่งเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความเบา อิสรภาพ และความรัก

ไม่มีของขวัญใดที่จะมีค่ามากไปกว่านี้แล้วครับ

2 comments

  • น่าชื่นชมโครงการนี้ นับเป็นของขวัญวันเกิดที่ดีจริงๆครับ

  • เป็นโครงการที่ดีครับ กิจกรรมที่ทำให้ เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดกัน
    ผมชอบครับ

Submit a comment

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s