อะไรคือความหมายของประชาชนผู้อาศัยอยู่ในประเทศ
ประชาชนในความหมายของ ‘ทาสผู้เชื่อฟัง’
จะเป็นบทสนทนาของความถูกผิด ดีขั่ว หากไม่เขื่อหรือไม่ปฏิบัติตาม ประชาชนจะถูกแยกเอาไว้ในกลุ่มของคนเลวหรือชั่ว ไม่มีความภักดีต่อรัฐ และเป็นปฏิปักษ์
สิ่งที่รัฐคาดหวังจากประชาชนในความหมายของทาสผู้เชื่อฟังเพียงสิ่งเดียวคืออำนาจปกครอง ไม่มีความจำเป็นใดๆเลยที่รัฐต้องสร้างสิ่งใดอันเป็นประโยชน์แก่ประชาชนในความหมายของทาสนี้ ไม่มีความทะเยอทะยานใดๆในการทำให้เศรษฐกิจดี ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี มีการศึกษาที่ดี เพราะเมื่อไรก็ตามที่ประชาชนมีกินมีใช้ รัฐก็จะสูญเสียอำนาจควบคุมแห่งรัฐอันเนื่องมาจากการที่ประชาชนที่มีชีวิตที่ดีขึ้น จะพึงพอใจในการเปลี่ยนความหมายของประขาชนจาก ‘ทาสผู้เชื่อฟัง’ ไปสู่ความหมายใหม่ ซึ่งเป็นอันตรายต่ออำนาจปกครองของรัฐที่ปราถนาเป็นอย่างยิ่ง
รัฐที่มองเห็นประชาชนเป็น ‘ทาสผู้เชื่อฟัง’ ย่อมกดขี่ ควบคุมให้ปราศจากอิสรภาพในการแสดงออก ทำให้ประชาชนทำงานหนักแลกกับรายได้ที่พอเลี้ยงตัวได้ และจัดเก็บภาษีสูง เพื่อเป็นประโยชน์ให้รัฐมีอำนาจควบคุมที่เพิ่มมากขึ้น ในความหมายของประชาชนเป็น ‘ทาสผู้เชื่อฟัง’ ย่อมมีประชาชนจำนวนหนึ่งที่ยินยอมหลงไหลในความหมายนั้น เพราะเคลิบเคลิ้มไปกับการสรรเสริญเยินยอในการถูกแยกไว้ในกลุ่มของคนดีบ้าง การได้ประโยชน์จากการแลกประโยชน์กับรัฐบ้าง และการที่ประชาชนเหล่านั้นได้สิทธิพิเศษแห่งรัฐ แลกกันกับอิสรภาพที่สูญเสียไปเหล่านั้น
รัฐที่มองเห็นประชาชนในความหมายนี้ จะเต็มไปด้วยผู้นำที่ความเย่อหยิ่งยโส ดูถูกดูแคลนประชาชน ไม่สนใจความต้องการของประชาชน และเต็มไปด้วยการโกงกินอย่างเปิดเผย
ในความหมายของ ‘หุ้นส่วนของประเทศ’
ในความหมายนี้ รัฐไม่ได้มองประชาชนเป็นหุ้นส่วนของประเทศ เงินภาษีทุกบาททุกสตางค์ที่เรียกเก็บจากประชาชน คือการที่ประชาชนลงทุนในรัฐร่วมกัน เป็นเสมือนผู้ถือหุ้นของประเทศ และผู้ถือหุ้นเหล่านั้นเลือกผู้บริหารของรัฐขึ้นมาเพื่อจัดการบริหารประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า หุ้นส่วนทุกคนได้รับปันผลประโยชน์เป็นในรูปของเศรษฐกิจที่ดี รายได้ที่เยอะขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และเข้มแข็งอยู่ในประเทศที่สงบสุข
ในความหมายของประชาชนแบบนี้ รัฐย่อมเป็นส่วนหนึ่งของประชาชนและประชาชนก็คือรัฐอย่างแบ่งแยกไม่ได้ รัฐย่อมต้องเต็มไปด้วยความถ่อมตัวในวิธีที่เคารพประชาชนในฐานะหุ้นส่วนของรัฐ และรัฐจะทำทุกสิ่งเพื่อให้ประชาชนมีความสุข เนื่องจากหุ้นส่วนทุกคนคือเจ้าของรัฐ และถ้าหุ้นส่วนไม่พึงพอใจในรัฐ การปกครองโดยผู้บริหารนั้นก็จะสิ้นสุดลงเนื่องจากผู้ถือหุ้นย่อมพึงพอใจที่จะเลือกผู้บริหารชุดใหม่ที่สร้างประโยชน์ให้มากกว่าเพื่อเข้ามาบริหารรัฐ
ผู้บริหารของรัฐที่ให้ความหมายกับประชาชนในฐานะ ‘หุ้นส่วนของประเทศ’ จึงเป็นผู้นำที่แท้จริงที่มองเห็นคุณค่าของประชาชนทุกๆคนอย่างเท่าเทียมกัน เป็นผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับประชาชนและมีการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆอันเป็นประโยชน์แก่รัฐและประชาชนในฐานะผู้ถือหุ้นแห่งรัฐอย่างสม่ำเสมอ เป็นผู้นำที่เปิดเผยในการทำงานและเปิดรับความคิดเห็นต่างๆอย่างตั้งใจและจริงใจ เต็มไปด้วยความนอบน้อมและทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อมุ่งที่จะให้เกิดการพัฒนาของรัฐและความสุขของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะในความหมายของประชาชนในฐานะ ‘หุ้นส่วนของประเทศ’ นั้น การดำรงอยู่ได้ของอำนาจปกครอง ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของประชาชนเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น
และจะเป็นบทสนทนาแห่งการสร้างสรรค์อย่างแท้จริง ประชาชนและรัฐจะมีบทสนทนาเดียวกันร่วมกัน ว่ามีอะไรบ้างที่เป็นไปได้สำหรับรัฐ ไม่มีการแยกคนเป็นกลุ่มที่ผิดหรือกลุ่มที่ถูก เพราะแม้ว่าจะมีความเห็นที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนคือทั้งหมดแห่งรัฐ โดยที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้
เราในฐานะประชาชน สามารถเลือกได้ว่าเราจะเป็นประชาชนในความหมายใด และเราสามารถพิจารณาเองได้ว่ารัฐที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบันให้ความหมายกับประชาชนในความหมายใด และในความหมายใดที่เราพึงพอใจที่จะให้เราคงอยู่ในความหมายนั้น