เขียนบันทึกไว้สำหรับคนเลี้ยงแมวนะครับ
ข้อแรก ไม่ว่าจะรักและห่วงแมวแค่ไหน ถ้าแมวกัดกัน อย่าเข้าไปจับ เพราะในขณะที่แมวกัดกันนั้น มันขาดสติโดยสิ้นเชิง
ข้อสอง ถ้าถูกแมวกัด ไม่ว่าจะเป็นแมวที่เลี้ยงเองและฉีดยากันสุนัขบ้า และเราฉีดยากันบาดทะยักไว้แล้วก็ดี ทันทีที่ถูกกัด ต้องล้างแผลด้วยน้ำเปล่าจำนวนมาก หรือล้างแผลด้วยสบู่ และน้ำเปล่า เพื่อกำจัดน้ำลายของแมวที่ติดอยู่กับบาดแผลออกไปให้มากที่สุด
ที่น้ำลายแมว มีเชื้อแบคทีเรีย Pastsrera ซึ่งอาจพบจากแมวมากถึง 97% (หมามีแค่ 75%) อยู่ ซึ่งเชื้อนี้ทำให้เกิดอันตรายกับร่างกายคนที่ถูกกัด เป็นแผลกลัดหนอง หรือลามไปตามส่วนต่างๆของร่างกายได้รวดเร็วมาก หมอเล่าให้ฟังว่า หลายคนที่ชะล่าใจและปล่อยให้แมวกัดแล้วทิ้งรอดูอาการเป็นอาทิตย์ เชื้อลามเป็นหนองไปทั้งแขนแล้วก็มี หรือไม่ก็วิ่งเข้าไปตามข้อต่างๆ การรักษาต้องเปิดผิวหนังออกมาล้าง หรือลงเข้าไปล้างตามข้อ ซึ่งโอกาสที่มือหรืออวัยวะจะกลับมาใช้ไม่เหมือนเดิม 100% เป็นไปได้มาก
ไม่ว่าแมวจะฉีดยาแล้ว หรือเราจะฉีดยาแล้วก็ไม่เกี่ยว ยังไงแมวกัดถ้าเป็นแผลต้องล้างน้ำจำนวนมากทันที แล้วค่อยมาทำแผลฆ่าเชื้อด้วยวิธีอื่นหลังจากนั้น
การรักษาของหมอเมื่อมีอาการ ก็จะทำการตรวจด้วย x-ray และ MRI เพื่อดูการลามของหนอง ถ้าไม่มีหนอง ก็สามารถจะใช้ยาฆ่าเชื้อให้เขากระแสเลือดเพื่อเข้าไปสู้กับเชื้อโรคเหล่านั้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ถ้าการให้ยาให้ผลดี และมีอาการปวดน้อยลง โอกาสที่จะรักษาหายก็มีสูง บริเวณรอบแผลที่บวมก็จะค่อยลดลง จนกระทั่งหาย
ทันทีที่โดนแมวกัด ล้างแผลด้วยน้ำจำนวนมากทันทีนะครับ และถ้าเริ่มปวดแม้เพียงนิดเดียว ให้รีบไปพบแพทย์ด่วนเลยทุกครั้งครับ อย่าประมาทเพราะแค่คิดว่าแมวเราฉีดยาแล้วไม่น่าเป็นอะไร เพราะไม่ได้มีแต่โรคพิษสุนัขบ้าหรือบาดทะยักเท่านั้นที่น่ากลัวนะครับ การติดเชื้อจากน้ำลายแมวที่ก็น่ากลัวใช้ได้ ระดับกลัดหนองเลยนะครับ