But if you are not dying trying, then you stay forever on the ground.
เรายิ่งปีนภูเขาที่สูง ตอนตกก็จะเจ็บหนักกว่าเขาหน่อย แต่ถ้าไม่ลองทำเสียเลย เราก็จะแค่อยู่ในที่เดิมที่เราอยู่ต่อไป
ตอนที่เรากำลังปีนขึ้นไปนี่ ผู้คนจะมาห้อมล้อมกันเกรียวกราวครับ ส่งเสียงเชียร์ ยกย่อง เพราะเรากำลังปีนเขาที่ไม่มีใครเคยปีนได้มาก่อน เราเองก็จะมีความลำพองและหยิ่งยะโสอยู่ในใจ ถ้าขาดสติเพียงนิดเดียว เผลอโบกไม้โบกมือให้กับกองเชียร์เมื่อไหร่ จิตใจไม่อยู่กับการปีนเขาที่อยู่ตรงหน้า นั่นก็จะเป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด
เพราะยังไงเราก็พลาดในการปีนครั้งแรกเสมอครับ
เวลาที่เราตกลงมาจากเขานี่ มันจะดูไม่ดีสุดๆครับ คนที่เคยเชียร์เราก็จะเบือนหน้าหนี เพราะเขาก็จะดูไม่ดีไปกับเราด้วยถ้ายังเชียร์เราต่อไป หลายคนเพื่อให้เขายัง ‘ดูดี’ ต่อไป ก็จะหันกลับมานินทาเรา ว่าเรา ให้ร้ายเราในเรื่องต่างๆ เพียงเพื่อจะกดเราให้ต่ำลง เพื่อพวกเขาจะได้รู้สึกว่าตัวเองสูงขึ้นอีกนิดนึง และหลีกเลี่ยงที่จะ ‘ดูไม่ดี’ ไปกับเราด้วย
ไม่ว่าเป้าหมายของเราในการปีนเขาจะยิ่งใหญ่สำหรับตัวเราหรือมนุษย์ชาติแค่ไหนก็ตาม แต่ลองให้เราได้ตกลงมาจากเขาแล้วล่ะก็ คนที่เราเคยคิดว่าเขาเป็นพวกเรา หรือเราเคยช่วยเขาและหวังว่าเขาจะช่วยเราบ้างตอนเราตกเขา คนพวกนี้จะหายวับไปในพริบตา ส่วนหนึ่งก็จะกลับมาเยาะเย้ยเรา เหยียดหยามเรา เพราะมันง่ายกว่าที่จะทำแบบนั้นเพื่อให้พวกเขารอดจากการดูไม่ดีไปกับเรา ความเจ็บปวดจากการตกเขานั้นมันก็ส่วนหนึ่ง แต่ความเจ็บปวดจากการทรยศของคนที่เราเคยเรียกว่าเป็นมิตรนั้นมันเจ็บปวดกว่าเยอะนัก
แต่มันก็น่าสงสารสำหรับเขาเหล่านั้น เพราะเขาลืมไปสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก คือไม่ว่าพวกเขาจะเก่งแค่ไหน วันหนึ่งถ้าพวกเขายังปีนภูเขาอยู่
ก็จะมีวันหนึ่งที่พวกเขาจะต้องตกจากภูเขาเช่นกัน
เหมือนกับเราที่กำลังตกอยู่ที่ก้นเขาในเวลานี้ คนกลุ่มเดียวที่ช่วยเราให้ขึ้นมาจากเขาได้ ก็คือคนกลุ่มหน้าเราที่เคยตกเขามาก่อน เขาอยู่บนยอดเขา พยายามโยนเชือกมาให้เราเกาะไว้ ฉุดกระชากเรากลับขึ้นไป และถ้าเรามีความเพียร เราก็จะกลับไปอยู่ในเกมของการปีนเขาได้ในที่สุด แล้วคราวนี้เราก็จะปีนเก่งขึ้น และปีนได้สูงขึ้น ต่อให้ตกจากการปีนอีกซักกี่ครั้ง เราก็ปราศจากความกลัวอีกต่อไป และกลับมาอยู่ในเส้นทางที่ไปสู่ยอดเขาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
คนที่เคยเยาะเย้ยนินทา ดูถูกถากถางเรา เขาก็จะอยู่หน้าเรา หรือตามเรามาข้างหลัง อันนั้นมันอาจจะไม่สำคัญ สำคัญที่ถ้าพวกเขายังปีนภูเขาลูกนั้นอยู่และวันหนึ่งพวกเขาตกจากภูเขาลงไปบ้าง สงสัยเหลือเกินว่าใครหนอจะคอยโยนเชือกลงไปช่วยพวกเขา แน่นอนคงไม่ใช่คนที่เขาเคยเยาะเยัยนินทา ดูถูกถากถางเอาไว้ และเขาก็จะได้สัมผัสถึงความเจ็บปวดของการตกจากเขานั้นอย่างยาวนานกว่าเราอย่างแน่นอน
ผู้คนนินทา และไม่ได้มีเหตุผลอะไรในการนินทามากกว่าทำให้พวกเขาดูดี และทำให้คนที่ถูกนินทาดูไม่ดี เพียงเพื่อให้เขารู้สึกว่าตัวเองมีค่ามากขึ้น จากความต่ำต้อยที่เขามีอยู่ภายในแค่นั้น คนที่รู้ว่าตัวเองมีค่า จะไม่มีวันนินทาใครเลย
นั่นคือความจริงที่ได้จากการปีนเขาลูกใหญ่เหลือคณา