พูดถึงเรื่องเขียน code
ผมหัดเขียน code ตอนประมาณ ม.1 นะครับ ตอนนั้นเขาไม่เรียกว่า code เขาเรียกว่า ‘ภาษาคอมพิวเตอร์’ แล้วก็มีการเรียนกันเหมือนเรียนภาษา สมัยนั้นจะเป็นประมาณภาษา PASCAL ภาษา C และก็ภาษา BASIC (เขียนแล้วก็เขินมาก นี่มันบอกอายุว่าแก่จริง)
สมัยนั้นคอมพิวเตอร์แบบ PC ที่เรารู้จักกัน ยังไม่แพร่หลายในประเทศไทยด้วยซ้ำ ใกล้ตัวที่สุดก็น่าจะเป็นเกมส์คอนโซล ATARI หรือ เครื่อง Commodore 64 นี่คือฮิปสุดในยุคนั้น เพื่อนผมได้เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่เอี่ยมในขณะนั้นมาตัวหนึ่งคือ ZX81 ของ Sinclair มีหน่วยความจำประมาณ 1 K สามารถขยายไปเป็น 16 K (ซึ่งหรูหรามาก) เวลาจะแสดงผลต้องต่อเข้าจอ TV ผ่านสัญญานเสาอากาศแบบ RF เครื่อง ZX81 นี่ไม่มีหน่วยความจำแบบบันทึกได้นะครับ ถ้าเป็นสมัยนี้ก็คงเป็นเครื่องที่มีแต่ RAM ไม่มี Harddisk เวลาจะใช้งานจะต้องเขียน code ลงไปใน RAM ก่อนใช้งานทุกครั้งแล้วก็กด RUN ภาษาที่เครื่องใช้คือภาษา BASIC เพราะมี Syntax คล้ายกับภาษาอังกฤษมากที่สุด เข้าใจง่าย เขียน code ง่าย แต่ใช้ Strings หรือตัวอักษรเยอะ ทำให้เปลืองพื้นที่ในหน่วยความจำมากกว่า คนที่เขียน code หรือสมัยก่อนเราใช้คำว่า โปรแกรม ในภาษา BASIC จึงไม่ต้องใช้ความสามารถมากนัก ก็สามารถสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ตามที่ต้องการ
ตอนผม ม.1 นี่ มีความสนใจอยากเล่นเกมส์คอนโซลมาก แต่ฐานะทางบ้านไม่เอื้ออำนวยให้ซื้อ ATARI มาเล่นได้ ตอนเพื่อนเอาเครื่อง ZX81 มาให้เล่น จึงหมกมุ่นอยู่เรื่องเดียวคือพยายามเขียน code เอาไว้ให้เล่นเกมส์ได้ เครื่องที่ให้มาก็จะมีสมุดมาด้วยเล่มนึง ข้างในเป็น code ของเกมส์ง่ายๆต่างๆหลายสิบหน้า สิ่งที่เราต้องทำก็แค่พิมพ์ code ลงไปตามนั้น พอ RUN ได้ก็จะได้เล่นเกมส์สมใจ ผมจำได้ว่านั่งพิมพ์เล่นไปจนหมดทุกเกมส์ ทุกครั้งที่จะเล่นก็ต้องพิมพ์ใหม่ทุกครั้ง พอทำไปหลายๆครั้ง ก็จะเริ่มเข้าใจตรรกะของ Syntax ของภาษา BASIC ที่ใช้จนซึมเข้าไปเอง ช่วงหลังๆก็เริ่มจะเขียน code เอง ออกแบบเกมส์ง่ายๆเล่นเองได้ จนกระทั่งเริ่มเบื่อไปเองและสุดท้ายก็เอาเครื่องคืนเพื่อนไป
นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาตอนมีคนออกมาพูดว่าจะสอนเด็กเขียน code โดยไม่ต้องมีเครื่อง ก็เลยนึกภาพย้อนไปเห็นตัวเองตอนเด็กๆว่าหันมาสนใจเรื่อง code ในตอนนั้นได้ยังไง ถ้าต้องเรียนเขียนแต่ไม่ได้ ‘ทดลอง’ ทำ ก็คงเหมือนเรื่องอื่นๆในการศึกษาบ้านเราในปัจจุบันที่สอนเด็กให้เก่ง ‘ทฤษฎี’ โดยเชื่อว่าถ้ามี ‘ความรู้’ แล้วจะ ‘ทำ’ เป็น ผมเองเชื่อจากการ ‘ทำ’ แล้วค่อยไปสู่ ‘การเรียนรู้’ มากกว่า
แต่ก็ไม่ต้องสงสัยหรอกครับ นั่นเป็นการอธิบายอยู่แล้วในตัวว่าทำไมประเทศเราที่ปกครองด้วยผู้ใหญ่แบบนี้ จึงไม่ก้าวหน้าไปทางไหนซักที
Note: Picture from Oldcomputers.net