มันไม่ใช่การเดินทอดน่องอย่างสบายในสรวงสวรรค์หรอก ที่จะบอกว่าคุณคือใคร แต่เป็นการยิ้มให้ยมทูตหรือการเต้นรำได้ท่ามกลางไฟนรกต่างหาก ที่จะสิ่งที่บอกว่า คุณคือใคร
ถ้าคุณคิดว่าชีวิตคือวิกฤต มันจะมีวิกฤตที่หนักหนากว่านั้นรออยู่เสมอ ในความยากลำบากที่รอคุณอยู่ข้างหน้านั้น มันจะไม่ได้ให้ความหมายว่าคุณคือใคร คุณเป็นคนดีหรือเลวแค่ไหน คุณเคยช่วยเหลือใคร หรือตั้งใจดีอย่างไรในสิ่งที่คุณทำ ความยากลำบากและความตาย ไม่เคยสนใจว่าคุณเป็นใคร มันลงมือกระทำกับคุณอย่างเท่าเทียมกัน ในวิธีที่มันไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน และมันก็ไม่สนใจใดๆทั้งนั้นที่เป็นความหมายที่คุณให้กับตัวคุณ
คุณก็ไม่ควรให้ความหมายกับมันเช่นกัน
เมื่อคุณเผชิญกับความยากลำบาก ให้เตรียมตัวไว้เลยสำหรับความยากลำบากเหล่านั้นที่จะมาถึงในวันรุ่งขึ้น และความยากลำบากที่จะมากกว่านั้นในวันถัดไป ไม่ต้องให้ความหมายใดๆกับความยากลำบากนั้น เช่นเดียวกับที่มันไม่เคยให้ความหมายกับคุณเช่นกัน มันเกิดขึ้นกับคุณเพราะมันเกิดขึ้นกับคุณ ราวกับโขลงช้างที่วิ่งผ่านป่าและเหยียบย่ำต้นหญ้า หรือต้นไม้ใหญ่จนราบ มันไม่ได้เหยียบต้นไม้เหล่านั้นด้วยเหตุผลใดๆเลย มันเกิดขึ้นเพราะมันเกิดขึ้น
แล้วต้นไม้ที่ตายก็คือตาย ต้นที่ไม่ตายก็หาทางที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
สิ่งที่สำคัญคือ ไม่ว่าคุณจะให้ความหมายกับตัวคุณว่าอย่างไร มันจะไม่ได้มีความหมายอะไรเลยเวลาที่คุณเผชิญหน้ากับภาวะวิกฤต ความยากลำบาก หรือความตาย แต่วิธีที่คุณเผชิญหน้ากับภาวะวิกฤต ความยากลำบาก หรือความตาย นั่นต่างหากที่จะเป็นการสร้างความหมายสำหรับคุณ ว่าคุณคือใคร
ซึ่งนั่นก็ไม่ได้มีความหมายใดๆอยู่ดี
เพราะสุดท้ายทุกสิ่งทั้งหมดนี้ก็จะผ่านไป ความยากลำบากก็จะผ่านไป ความสุขก็จะผ่านไป และชีวิตก็จะผ่านไป ความหมายที่เราสร้างสำหรับตัวเรา สุดท้ายแล้วมันก็ไม่เคยคงอยู่อยู่ในตัวเรา แต่มันจะคงอยู่ได้แต่เพียงในผู้คน และในชีวิตที่อยู่รอบตัวเรา เพียงชั่วขณะหนึ่ง แล้วมันก็จะสลายไปอย่างรวดเร็ว ราวกับลมหนาวในต้นฤดูร้อน
หนทางเดียวในการรับมือกับความยากลำบาก หรือความตาย ก็คือการโอบกอดมันและเต้นรำไปกับมัน มันมาถึงเพื่อจะจากไป เช่นเดียวกับชีวิตทั้งมวล ไม่มีเหตุใดที่เราต้องคร่ำคราญ ไม่มีเหตุใดที่เราต้องพร่ำบ่น ท้อแแท้ หรือสิ้นหวัง ก็เพียงแค่เต้นรำไปกับมัน และอยู่กับมันในวิธีที่เรารู้ว่ามันจะผ่านไป เช่นเดียวกับความสุข และชีวิตทั้งมวล
จงเต้นรำไปอย่างบ้าคลั่งเข้าไปสู่ความยากลำบากและความตาย เพราะนั่นคือความหมายเดียวของตัวคุณและชีวิตของคุณ
และมันก็ไม่ได้มีความหมายใดๆเลย จริงๆ