เวลาคุณเป็นต้นไม้ใหญ่ คุณก็ย่อมจะเป็นร่มเงาที่ร่มรื่นแผ่กิ่งก้านสาขาให้คนได้พึ่งพาอาศัย แต่ในขณะเดียวกัน ร่มเงาของคุณมันก็ช่างกว้างใหญ่ไพศาลเสียเหลือเกิน จนบางทีก็ยากเต็มทีที่ลูกไม้ของคุณที่หล่นอยู่ใกล้ต้นจะเล็ดลอดร่มเงานั้นเพื่อเติบโตงอกงามเป็นไม้ยืนต้นด้วยตัวเองได้ ลมที่พัดพาลูกไม้นั้นไปตกยังแดนไกลนั้นเองที่จะทำให้เมล็ดพันธุ์ที่ตกลงสู่ดิน ได้มีโอกาสสัมผัสแสงแดดอันอบอุ่น และเติบโตงอกงามโดยไม่แคระแกร็นอยู่ใต้เงาไม้ของต้นไม้ใหญ่นั้น
ผมอยู่กับลูกชายและลูกสาวผมแบบไม่เคยห่างกันไกลมาตลอดชีวิตของพวกเขา โดยเฉพาะลูกชายผมนั้น ตลอดเวลา 19 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยเลยที่จะไม่เจอหน้ากันเกิน 1 เดือน ทุกวันหลังจากที่ผมกลับจากทำงาน จะแวะไปทักทายกันทุกคืน วันไหนที่ผมเครียดหรือเศร้าใจจากเรื่องงาน ก็จะได้ลูกชายผมนี่แหละเป็นคนคอยปลอบประโลมและให้กำลังใจด้วยภาษาง่ายๆของเขาที่ผมสอนเอาไว้ตั้งแต่เด็ก อาทิเช่น ‘ช่างแม่งเลยพ่อ’ ‘ไปสนใจมันทำไม’ หรือ ‘เหนื่อยก็นอนพ่อ ไปนอนซะ’ แม้คำตอบของเขาจะไม่ได้มีตรรกะอะไรที่แก้ไขปัญหาของผมในแต่ละวันโดยตรง แต่ก็มักจะทำให้ผมฉุกคิดได้เสมอว่า ทุกสิ่งที่ผมทำอยู่ ในมุมหนึ่งแล้วมันก็เป็นสาระในความไร้สาระโดยแท้ และการรับมือสถานการณ์ที่ผมคิดว่าผมกำลังเผชิญหน้ากับมัน เมื่อมองจากอีกมุมหนึ่งจากมุมของลูกชายผมแล้วล่ะก็ มันไม่ได้มีสถานการณ์เวรอะไรอยู่ตรงนั้นด้วยซ้ำ
ตอนที่ผมเผลอหลุดปากยอมให้มันมาเรียนต่อปริญญาตรีด้านการถ่ายภาพที่ญี่ปุ่นได้นั้น มันออกอาการดีใจอย่างลิงโลดมาก จริงๆผมก็รู้อยู่แล้วว่าชีวิตมันต้องมาทางนี้ ภาษาญี่ปุ่นเป็นวิชาเดียวที่พ่อลูกชายผมมันสอบได้ 4.0 โดยไม่ต้องเคี่ยวเข็ญกันมากนัก และการถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์มก็ดูจะเป็นเรื่องเดียวที่ทำให้เด็กผู้ชายคนนี้หมกมุ่นได้เป็นเวลายาวนานหลายปี ผมสารภาพเลยว่าแอบดีใจที่มันไม่ได้อยากเรียนสถาปัตย์ ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบอาชีพนี้นะครับ แต่ผมทำอาชีพนี้มันไว้ดีมากจนไม่อยากให้เป็นภาระที่ต้องให้ใครมายืนอยู่บนบ่าของผมเพื่อที่จะทรงตัวให้มั่นคง ชีวิตของเขา ก็คงจะดีกว่าที่จะอนุญาตให้เขาเลือกทางของเขาเองและมีอิสระใดๆในการเลือกของเขานั้น
ผมเดินทางมาส่งลูกชายผมถึงโตเกียว เพื่อให้แน่ใจว่าผมจะได้มีโอกาสพาลูกมาพบกับเพื่อนๆชาวญี่ปุ่นของผมในเมืองนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ คนหนึ่งที่ได้มาเจอกันคือ Kensaku เป็น Creative Director ที่เคยอยู่ในซานฟรานซิสโกอยู่หลายปี ก่อนกลับมาทำงานในโตเกียว ผมเจอกับ Ken ในงาน Wonderfriut เมื่อปีที่แล้ว และก็ติดตามกันจนได้มาเจอกันอีกครั้งที่นี่คราวนี้ Ken ตื่นเต้นกับลูกชายผมมาก กะพาไปทำงานแบกของเป็นลูกมือเต็มที่ พร้อมทั้งพาไปเจอผู้คนหลากหลายในวงการที่นี่ แถมยังเปรยๆถึงการทำงานกับสาวๆหน้าตาดีมากมาย จนพ่อมันแทบจะอยากลาออกจากงานมาช่วยทำงานกับลูกที่นี่ด้วยอีกคน
มีคนกระซิบว่าเป็นลูกของผมนี่มันช่างโชคดีเหลือเกิน มีคนช่วยเหลือมากมาย ผมบอกว่ามันก็เป็นสิ่งที่ลูกผมต้องแลกได้มากับเวลาที่ผมมีให้ในยามเด็กของเขาอันน้อยนิด แม้จะเต็มไปด้วยความรัก แต่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กในวัยเยาว์คือเวลาของพ่อแม่ที่มีให้พวกเขา และผมก็ไม่เคยมีให้พวกเขาพอเท่าที่เขาอยากได้ ผมรู้ดี
คงเป็นเวลาที่ยากของคนที่เป็นพ่อทุกคนที่ต้องยอมรับว่า มันถึงเวลาที่ลูกๆของเขานั้นมันไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ลูกนกกำลังโตเป็นนกหนุ่มได้ที่พร้อมจะบินออกไปจากรัง และเป็นหน้าที่ของคนที่เป็นพ่อที่จะต้องถีบลูกนกหนุ่มให้ตกลงไปเสียจากรัง เพื่อที่มันจะบินเองออกไปสู่โลกกว้างเสียที วินาทีที่ต้องถีบมันออกจากรังนั้น มันช่างเป็นความทรมานอันสาหัส ภาพเด็กน้อยน่ารักตั้งแต่ครั้งแบเบาะ หัดเดิน ไปโรงเรียนครั้งแรก หัดขี่จักรยาน นั่งเล่นเกมส์ด้วยกัน ออกไปเดินถ่ายรูปด้วยกัน ภาพทั้งหมดมันถาโถมเข้าใส่อย่างรุนแรงมาก กระหน่ำเข้ามาในจังหวะที่ลมฤดูใบไม้ผลิแห่งเมืองโตเกียวยามค่ำกรรโชกแรง ทำเอาหัวใจแทบจะหลุดปลิวไปเสียเดี๋ยวนั้น พลันย้อนกลับไปคิดถึงพ่อของผมสมัยที่ต้องมาส่งผมไปเรียนที่อังกฤษ ความรู้สึกคงไม่ต่างกันนัก ‘แต่นั่นผมยังมีเวลาให้ท่านเตรียมตัวตั้งหลายปี’ นี่คือนึกเถียงในใจ ลูกชายผมผมยังเด็กนัก และการโผบินออกไปเป็นเด็กหนุ่มที่พร้อมที่จะออกไปผจญโลกกว้างของเขานั้นมันช่างรวดเร็วเกินไปสำหรับผมเหลือเกิน
แต่ก็นั่นแหละ ทุกอย่างมันก็ต้องดำเนินไปตามวิถีของมัน ฝนตกในคืนนี้ในโตเกียว พัดพาเอาดอกซากุระที่บานรับฤดูใบไม้ผลิจนช้ำให้ต้องปลิดปลิว ถึงเวลาแล้วที่พวกมันที่ต้องหลุดร่วงไปทั่วพื้นดิน ซากุระที่งดงามก็ต้องยอมโรยรา เพื่อเปิดโอกาสให้ฤดูใบไม้ผลิที่กำลังมาถึงนำเอาความอบอุ่นที่สวยงามมาสู่ดินแดนนี้อีกครั้งหนึ่ง ความรักที่ยิ่งใหญ่คือการให้อิสระในความรักนั้น แม้จะฟังดูมีอัธยาศัย แต่ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวอันสุดที่จะพรรณา