เมื่อวานไปบรรยายที่งาน #SAAN ของพระจอมเกล้าบางมดมา ดีใจที่ Neri&Hu ทั้งสองคนมานั่งฟังเราบรรยายอย่างตั้งใจ

Neri&Hu เป็นสองคน partner ที่ช่วยกันออกแบบทำงาน จนมีชื่อเสียงลำดับต้นๆในจีนและเอเซีย มีแนวทางของงานที่ผมชอบมาตั้งแต่แรกที่เห็นงานพวกเขาได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสารดังอย่าง Frame งานของพวกเขามีอารมณ์ ดิบ แบบ authentic แบบที่ผมชอบทำ เคยมีอารมณ์อิจฉาพวกเขาบ่อยครั้ง ประมาณว่า ‘อือ มึงทำงานเหมือนกูเลย แต่ทำไมกูงานน้อยกว่ามึง มึงงานเพียบเลย’ อะไรประมาณนั้น

ผมเจอ Lyndon Neri ครั้งแรกที่ Berlin ในโรงแรมเดียวกันตอนกินอาหารเช้า เขาก็ทักเรา เราก็ทักเขา ประหลาดใจเล็กน้อยว่า ‘อือ มึงก็รู้จักกูนี่เนอะ’ แล้วก็นั่งคุยกันยาว จนกินเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันไป เมื่อวานก่อนนั่งประชุมอยู่ที่ The Jam Factory ก็ยังตกใจที่เจอทั้ง Neri และ Hu เดินมาทักทาย มากรุงเทพทั้งทีไม่บอกกล่าว แถมยังดอดมาที่ Jam มานั่งกินข้าวในร้านเราเสียด้วย Neri บอกว่าทางพระจอมเกล้าเชิญมาบรรยายก็เลยมากรุงเทพฯ เขาบอกว่าตอนแรกก็ไม่ได้สนใจจะมา แต่พอเห็นชื่อว่ามีดวงฤทธิ์เป็น Keynote ด้วยก็เลยมา เพราะอย่างฟังดวงฤทธิ์บรรยาย ‘แหม่ มึงก็เล่นใหญ่นะเนรี’

ในการบรรยายของผม ผมไม่ได้เล่าเรื่องงานออกแบบมากนัก แต่เล่าเรื่อง #CreativeDistrictBangkok ที่ผมช่วยกันผลักดันร่วมกับชุมชนต่างๆอยู่ เล่าเรื่อง #TheJamFactory และ #Warehouse30 หลังจากเขาฟังผมบรรยยายจบ เขาก็เดินมาเล่าให้ฟังว่า เขาและ partner ก็ทำอะไรหลายอย่างคล้ายๆกัน และเราค้นพบเรื่องที่น่าสนใจอีกหลายสิ่งเช่น เราสองคนเกิดวันเดียวกันแต่ห่างกันปีนึง มีออฟฟิศอยู่ในโกดังเหมือนกัน มีร้านอาหาร มี free magazine ทำตลาดนัด มีโรงแรมด้วย สรุปว่าสถาปนิกดังอย่าง Neri&Hu ทำอาชีพนี้อย่างเดียวก็ไม่รอดเหมือนกัน มันเองก็บอกว่าเริ่มจะลืมตาอ้าปากได้ก็ตอนทำร้านอาหารนี้แหละ แต่เขาบอกผมว่ามันต่างกันก็ตรงที่เจาไม่เคยบอกใครเรื่องธุรกิจอื่นๆของเขาเลย เพราะคิดว่าเป็นสถาปนิกไม่ควรทำให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นนักธุรกิจด้วย เขาบอกว่าพอฟังการบรรยายผมแล้วก็ได้ความคิดใหม่ กลับไปจะไปบอกคนอื่นอย่างเป็นอิสระว่าทำอะไรบ้าง เพราะเห็นว่าผมบอกได้และมันก็เหมือนไม่ได้เสียหายอะไร

เขาบอกว่าเขาประทับใจกับสิ่งที่ผมทำอย่าง The Knack Market ในประโยคที่ผมเล่าว่า ผมไม่ได้เก็บค่าแผงเยอะเลย แค่วันละ 500 บาทบ้าง 200 บาทบ้างต่อวัน จนคนที่เอาของมาขายในตลาดเดินมาขอบคุณผมที่ทำให้เขาเอาของมาขายได้ มีรายได้จุนเจือตัวเองและครอบครัวเดือนละครั้ง เขาบอกว่าการ contribute ให้กับชุมชนเป็นเรื่องดีที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน และเขาจะเอาไปเริ่มลงมือทำเช่นเดียวกันในเซี่ยงไฮ้ เมืองที่เขาทำงานอยู่บ้างเช่นกัน

ผมดีใจที่สถาปนิกระดับโลกอย่าง Neri&Hu ที่ผมชื่นชอบ มาฟังผมบรรยาย (ทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้ไปฟังมันบรรยาย แหะ) ฟังจบแล้วผมก็ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เขาไปสร้างการเปลี่ยนแปลงในเมืองของเขาด้วยอีก เป็นอีกครั้งที่ค้นพบว่าเราสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกๆคนที่อยู่ตรงหน้าเรา ในสิ่งที่เราทำไม่ว่าสิ่งนั้นจะยิ่งใหญ่หรือเล็กน้อยเพียงใด หรือคนที่อยู่ตรงหน้าเราจะมีชื่อเสียงแค่ไหน เราก็สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีสำหรับชีวิตพวกเขาได้เสมอ ตลอดเวลา

Picture from the tweet by @nanoluke