เด็กขายพวงมาลัยก็ยังมีอยู่จนถึงทุกวันนี้

บางคนก็บอกว่าเด็กขายพวงมาลัยเป็นเรื่องผิดเพราะการขายของบนสี่แยกระหว่างติดไฟแดงนั้นผิดกฎหมาย และสังคมที่ดีต้องไม่มีเด็กขายพวงมาลัยตามสี่แยก เพราะสังคมที่ดีคือสังคมที่ทุกคนทำตามกฎหมาย 

แต่จากมุมมองของเด็กขายพวงมาลัย เพียงแค่ไม่กี่พวงที่เขาขายได้ในวันนั้น นั่นหมายถึงอาหารมื้อต่อไปที่เขาจะได้กินในวันนั้น เขาไม่รู้หรอกว่าสังคมที่ดีมันจะเป็นอย่างไร กฎหมายนั้นเขียนไว้ว่าอะไร เขารู้ว่าถ้าเขาหิวข้าว การออกไปขายพวงมาลัยตามสี่แยกคือวิธีที่เขาจะได้เงินมากินข้าวจากคนที่จ้างให้พวกเขาออกไปขาย และในสังคมเมืองที่ผู้คนมีความกังวลเกี่ยวกับชีวิตแตกต่างกันไป คนจำนวนไม่น้อยก็ยังมีความกังวลแค่ว่า มื้อต่อไปจะมีอะไรกินบ้าง ก็แค่นั้น 

คำถามที่น่าคิดก็คือว่า เด็กขายพวงมาลัยนั้น ทำ’ผิด’หรือไม่

ปัจจุบัน ‘ผิด’หรือ’ถูก’ในสังคมถูกจัดการไว้อย่างเป็นระบบโดยชนชั้นปกครองในสังคมในแบบที่ไม่ได้รวมเอาทุกๆคนในสังคมเข้าไปในการปกครองนั้น เราถูกทำให้เชื่อว่าสังคมควรมีมาตรฐานเดียวในการตัดสินความถูกผิดในสังคม ความคิดที่หลากหลายกลายเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังและคอยกำจัดให้หมดไป มากกว่าเป็นสิ่งที่ควรโอบกอดเอาไว้ในฐานะบริบทของการปกครอง เด็กขายพวงมาลัยกลายเป็นสิ่งผิดตามกฎหมายที่เขียนไว้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยบนถนน แต่สังคมก็ผิดที่ไม่ได้เอื้อให้ความเป็นอยู่ของเด็กขายพวงมาลัยนั้นดีพอเพื่อที่พวกเขาจะไม่ต้องขายพวงมาลัย มากเท่าไหร่ที่การปกครองโดยชนชั้นปกครองที่แยกห่างจากความหลายหลายทางสังคม สังคมก็ดูเหมือนจะผุพังลงเรื่อยๆ เริ่มจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำ สังคมที่ยากจนลง ผู้คนมีความคิดเป็นปรปักษ์ต่อชนชั้นปกครอง ชนชั้นปกครองก็ยิ่งพยายามกลบเกลื่อนและกำจัดความคิดปรปักษ์เหล่านั้นมากขึ้น พวกเขาจะยิ่งห่างจากผู้คนมากขึ้น และยิ่งระยะห่างนั้นมากเท่าไหร่เศรษฐกิจก็จะแย่ลงไปอีก เป็นวงจรอุบาทว์เช่นนี้

เด็กขายพวงมาลัย จึงไม่ใช่เรื่องของความ’ถูก’หรือ’ผิด’ในสังคม แต่กลับเป็นดัชนีชี้วัดว่าสังคมนี้ยังไม่เวิร์ค ถ้าเราจะทำให้สังคมเวิร์คในเรื่องของกฎหมายจราจร เราก็ต้องทำให้มันเวิร์คในแง่เศรษฐกิจและสังคมไปพร้อมๆกันด้วย น่าเสียดายที่การปกครองแบบกึ่งเผด็จการนั้น ไม่เคยเปิดโอกาสให้ชนชั้นปกครองได้ฟังประชาชนจริงๆ และประชาธิปไตยก็กลายเป็นโฆษณาชวนเชื่อของชนชั้นปกครองว่าเป็นเหตุแห่งการโกงกิน ราวกับว่าการโกงกินนั้นทำได้ยากยิ่งกว่าภายใต้ระบอบเผด็จการนั้น

คืนนี้ ยังมีเด็กขายพวงมาลัยอยู่ แบบที่มันเคยมีมา 50 กว่าปี และยังมีต่อไป